ข้อตกลงในการให้ความยินยอมเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ข้อตกลงในการให้ความยินยอมเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

            ข้าพเจ้าให้ความยินยอมแก่บริษัทในเครือดังปรากฏรายชื่อแนบท้ายนี้ (“บริษัทฯ”) ในการเก็บรวบรวม และ/หรือ ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้า และ/หรือข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับการใช้สินค้าและ/หรือบริการของข้าพเจ้า (“ข้อมูลของข้าพเจ้า”) เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์หรือคาดการณ์เกี่ยวกับความชื่นชอบหรือพฤติกรรมของข้าพเจ้า วิจัย พัฒนา ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และวางแผนการตลาด เพื่อให้แต่ละบริษัทฯ นำเสนอสินค้าและบริการ สิทธิประโยชน์ รายการส่งเสริมการขาย และข้อเสนอต่าง ๆ ของบริษัทฯ บริษัทในกลุ่มทรู หรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ ดังปรากฏรายชื่อในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ที่วิเคราะห์และคัดสรรอย่างเหมาะสมกับข้าพเจ้า รวมถึงยินยอมให้มีการเปิดเผยข้อมูลของข้าพเจ้าระหว่างบริษัทฯ บริษัทในกลุ่มทรู หรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวด้วย โดยข้าพเจ้าได้อ่านและรับทราบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของแต่ละบริษัทฯ เป็นอย่างดีแล้ว ที่เว็บไซต์ https://www3.truecorp.co.th/new/group-privacy-policy

            ข้าพเจ้ารับทราบว่าการให้ความยินยอมนี้เป็นการให้ความยินยอมตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) เพื่อให้ข้าพเจ้าสามารถรับสิทธิประโยชน์ รายการส่งเสริมการขาย และข้อเสนอต่าง ๆ ของบริษัทฯ บริษัทในกลุ่มทรู หรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ ได้อย่างต่อเนื่องภายหลัง พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับแล้ว ทั้งนี้ ข้าพเจ้ารับทราบว่าบริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน และบริษัทฯ มีสิทธิเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ต่อไปได้ตามวัตถุประสงค์เดิม โดยหากข้าพเจ้าไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทฯ เก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไปภายหลัง พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับแล้ว ข้าพเจ้าสามารถแจ้งยกเลิกความยินยอมได้ตามช่องทางที่บริษัทฯ จะได้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ต่อไป

    รายชื่อบริษัทในเครือ
  1. บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
  2. บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด
  3. บริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด
  4. บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด
  5. บริษัท ทรู ดิสทริบิวชั่น แอนด์ เซลส์ จำกัด
  6. บริษัท ทรู จีเอส จำกัด
  7. บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด
  8. บริษัท แอสเซนด์ นาโน จำกัด
  9. บริษัท หลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด
  10. บริษัท แอสเซนด์ แอสชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด
  11. บริษัท แอสเซนด์ อินโนเวชั่น จำกัด
  12. บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด
  13. บริษัท ชิลินโด จำกัด
  14. บริษัท แอสเซนด์ ฟู้ด จำกัด
ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานระบบการขายและบริหารสต๊อก (“POS”)

(Service Terms & Condition :- WePOS system)

            ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ ระบบการขายและบริหารสต๊อก(“POS”) (“ข้อกำหนด”) เป็นข้อตกลงระหว่าง ผู้ขอใช้บริการระบบ POS (“ผู้ขอใช้บริการ”) กับ บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของระบบ POS (“บริษัท”) และเป็นผู้รับจ้างบริหารจัดการระบบ POS (“ผู้บริหารระบบ”) เพื่อขอใช้บริการระบบ POS ซึ่งเป็นบริการอํานวยความสะดวกด้านการจัดการร้านค้า การจัดการคลังสินค้า การจัดการใบเสร็จ การทำรายการขาย และการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าทั้งหมด หรือส่วนใดส่วนหนึ่ง รวมถึงบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่นที่บริษัทจะให้บริการแก่ผู้ขอใช้บริการเพิ่มเติมในภายหน้า (“บริการ”) ผ่านเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันตามที่บริษัทกำหนด (“แอปพลิเคชัน”)

  1. ข้อกำหนดทั่วไป
    1. ข้อกำหนดนี้เป็นข้อกำหนดทั่วไปซึ่งใช้บังคับกับการใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันของผู้ขอใช้บริการ ผู้ขอใช้บริการตกลงที่จะปฏิบัติและผูกพันตามข้อกำหนดนี้ การที่ผู้ขอใช้บริการได้ทำการสมัครสมาชิก เข้าถึง และ/หรือ ใช้บริการของผู้ขอใช้บริการ ให้ถือว่าผู้ขอใช้บริการได้ยอมรับและตกลงปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้ ผู้ขอใช้บริการต้องรับผิดชอบ ในการทำความเข้าใจข้อกำหนดโดยละเอียดและปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้ รวมถึงคอยตรวจสอบข้อกำหนดนี้อย่างสม่ำเสมอ
    2. บริษัทอาจใช้ดุลยพินิจแต่ฝ่ายเดียวในการแก้ไข หรือเพิ่มเติมข้อกำหนด ไม่ว่าในเวลาใด โดยการประกาศ ให้ทราบบนแอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่นที่บริษัทกำหนดเป็นครั้งคราว และถือว่าการแก้ไข หรือเพิ่มเติมข้อกำหนดดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ประกาศ หรือตั้งแต่วันที่บริษัทจะกำหนดไว้เป็นครั้งคราว การที่ผู้ขอใช้บริการได้เข้าถึง หรือใช้บริการต่อไปภายหลังจากที่มีการแก้ไข หรือเพิ่มเติมดังกล่าว ย่อมถือเป็นการยอมรับการแก้ไข หรือเพิ่มเติมในแต่ละคราวแล้ว
    3. เว้นแต่จะได้มีการแจ้ง หรือกําหนดไว้เป็นอย่างอื่น คุณลักษณะของการบริการที่ได้แก้ไข เพิ่มเติม ปรับปรุงหรือสร้างขึ้นใหม่ให้ถือว่าอยู่ภายใต้ข้อกำหนดนี้ทั้งสิ้น บริษัทสงวนสิทธิ์ในการแก้ไข เพิ่มเติม ปรับปรุง หรือยกเลิกบริการ ไม่ว่าทั้งหมด หรือส่วนใดส่วนหนึ่ง คุณลักษณะและฟังก์ชันใด ๆ รวมถึงบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่นที่บริษัทจะให้บริการแก่ผู้ขอใช้บริการเพิ่มเติม ในภายหน้า ไม่ว่าจะเป็นการชั่วคราว หรือตลอดไปได้ตลอดเวลา ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม โดยไม่จำเป็นต้องแจ้ง ให้ผู้ขอใช้บริการทราบล่วงหน้า
  2. ขอบเขตของบริการ
    1. บริษัทจะจัดการให้การบริการแก่ผู้ขอใช้บริการอย่างดี ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดรูปแบบบริการไว้อย่างเป็นมาตรฐาน เพื่อให้บริการแก่ผู้ขอใช้บริการทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน บริษัทไม่อาจปรับเปลี่ยนบริการให้สำหรับผู้ขอใช้บริการรายใดรายหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจง และบริษัทไม่รับรองหรือรับประกันใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการ และไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายใด ๆ ไม่ว่าโดยตรง หรือโดยอ้อม ซึ่งรวมถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้บริการ
    2. ผู้ขอใช้บริการรับทราบว่า บริษัทเป็นเพียงผู้ให้บริการระบบ POS บริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสัญญาใด ๆ ระหว่างผู้ขอใช้บริการ กับลูกค้า และ/หรือผู้ใช้บริการของผู้ขอใช้บริการ (“ลูกค้า”) และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิทธิ และ หน้าที่ระหว่างผู้ขอใช้บริการ กับลูกค้า ดังนั้น หากมีปัญหากับสินค้า และ/หรือบริการ หรือมีความชํารุดบกพร่องของสินค้า และ/หรือบริการ หรือเกิดข้อพิพาทใด ๆ ผู้ขอใช้บริการต้องรับผิดชอบต่อลูกค้า รวมทั้งดําเนินการแก้ไขข้อพิพาทด้วยตนเอง บริษัทไม่มีส่วนรู้เห็นในสัญญา ข้อกําหนด หรือสิทธิและหน้าที่ต่าง ๆ ระหว่างผู้ขอใช้บริการ กับลูกค้าแต่อย่างใด
  3. การเข้าเป็นสมาชิกของผู้ขอใช้บริการ
    1. ผู้ขอใช้บริการจะต้องเปิดบัญชีสมาชิกกับบริษัท (“บัญชี”) และจะต้องตกลงตามข้อกำหนด และ/หรือ ดำเนินการใด ๆ ตามที่บริษัทกำหนด เพื่อขอใช้บริการกับบริษัท และผู้ขอใช้บริการยอมรับ และตกลงให้บริษัทมีดุลพินิจ แต่เพียงผู้เดียวในการพิจารณาอนุมัติ หรือปฏิเสธการสมัครสมาชิกของผู้ขอใช้บริการ หรือจำกัดการเข้าถึงบริการบางส่วนหรือทั้งหมด หรือระงับ หรือยกเลิกการเป็นสมาชิก และการใช้บริการของผู้ขอใช้บริการ หรือดำเนินการใด ๆ ตามที่จำเป็น และเหมาะสม ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบล่วงหน้า
    2. ในการเปิดบัญชีกับบริษัท โดยผู้ขอใช้บริการต้องให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่บริษัท ซึ่งรวมถึง สถานที่ติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลการติดต่ออื่น ๆ ตามที่บริษัทกำหนด
    3. ผู้ขอใช้บริการรับทราบและตกลงว่าบริษัทไม่ต้องรับผิดในความเสียหาย สูญเสีย หรือสูญหายใด ๆ ที่ผู้ขอใช้บริการได้รับจากการขอใช้บริการของผู้ขอใช้บริการทุกกรณี
  4. บัญชีและรหัสผ่าน
    1. ผู้ขอใช้บริการต้องกําหนดรหัสผ่าน (Password) ของตนเอง (“รหัสผ่าน”) เพื่อเข้าถึงบัญชีของผู้ขอใช้บริการ ผู้ขอใช้บริการสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงรหัสผ่านนี้ได้เองในภายหลังจากสมัครสมาชิกสำเร็จแล้ว ตามข้อกําหนดและเงื่อนไขของบริษัท
    2. ผู้ขอใช้บริการจะต้องเก็บรักษารหัสผ่านไว้เป็นความลับ และไม่เปิดเผย โอน หรือกระทำการใด ๆ ที่อาจทำให้ผู้อื่นทราบรหัสผ่านดังกล่าว ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ผู้ขอใช้บริการยอมรับว่าหากมีการทํารายการใด ๆ โดยใช้รหัสผ่านของผู้ขอใช้บริการ ให้ถือว่าเป็นการกระทําที่ถูกต้องสมบูรณ์ และผูกพันผู้ขอใช้บริการทุกประการ ผู้ขอใช้บริการตกลงรับผิดชอบการทำรายการดังกล่าว ไม่ว่าจะเกิดโดยผู้ขอใช้บริการ หรือบุคคลอื่น และไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ โดยบริษัทไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการทํารายการใด ๆ ภายใต้บัญชีที่ใช้รหัสผ่านดังกล่าว
    3. ในกรณีที่ผู้ขอใช้บริการใช้รหัสผ่านทํารายการใด ๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการใช้บริการเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ผู้ขอใช้บริการตกลงและยอมรับว่าผู้ขอใช้บริการไม่สามารถยกเลิก เพิกถอน เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขรายการดังกล่าวได้ และ ผู้ขอใช้บริการต้องผูกพันตามรายการดังกล่าวทุกประการ
    4. ผู้ขอใช้บริการรับทราบว่า ในการใช้บริการหากมีการป้อนรหัสผ่านผิดติดต่อกันมากกว่าจํานวนครั้ง ที่บริษัทกําหนด บริษัทอาจระงับการใช้บริการโดยอัตโนมัติทันที ผู้ขอใช้บริการจะสามารถใช้บริการนี้ต่อไปได้ก็ต่อเมื่อ แจ้งความจํานงให้บริษัทดําเนินการตามวิธีที่บริษัทกําหนดเพื่อขอออกรหัสผ่านใหม่
    5. ในกรณีที่ผู้ขอใช้บริการลืมรหัสผ่าน หรือต้องการเปลี่ยนแปลงรหัสผ่าน ไม่ว่าด้วยเหตุใด ผู้ขอใช้บริการต้องดําเนินการแจ้งให้บริษัททราบทันทีตามวิธีการที่บริษัทกําหนด อย่างไรก็ตาม การดําเนินการต่าง ๆ ข้างต้นจะไม่มีผลกระทบต่อการใด ๆ ที่ได้ดําเนินการไปแล้วก่อนการแจ้งให้บริษัททราบ
  5. คํารับรองของผู้ขอใช้บริการ
    1. ผู้ขอใช้บริการรับรองว่า ผู้ขอใช้บริการเป็นผู้มีความสามารถตามกฎหมาย และจะปฏิบัติตาม ประกาศ กฎ ระเบียบ หรือบทบัญญัติของกฎหมายใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการตามข้อกำหนดนี้ ทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบัน และ/หรือที่จะมีขึ้นต่อไปในภายหน้าโดยเคร่งครัด
    2. ผู้ขอใช้บริการรับรองว่าข้อมูลที่ผู้ขอใช้บริการได้ให้แก่บริษัท ตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดนี้ และข้อมูลอื่นใดที่ผู้ขอใช้บริการได้ส่งมอบให้แก่บริษัท เป็นข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันทุกประการ หากข้อมูลใด ๆ ที่ผู้ขอใช้บริการให้กับบริษัทไม่เป็นปัจจุบัน ผู้ขอใช้บริการจะต้องดำเนินการให้ข้อมูลดังกล่าวเป็นปัจจุบันโดยไม่ชักช้า หากบริษัทตรวจพบว่า ผู้ขอใช้บริการแจ้งข้อมูลเท็จ ปกปิดข้อมูลที่สำคัญ ปลอมแปลงข้อมูล และ/หรือสวมรอยเป็นบุคคลใดไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ บริษัทสงวนสิทธิ์ระงับหรือยกเลิกบริการได้ทันที และผู้ขอใช้บริการจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัท ทุกประการ ทั้งนี้ ไม่ว่าผู้ขอใช้บริการจะมีเจตนาทุจริตหรือไม่ก็ตาม
    3. ผู้ขอใช้บริการรับรองว่าจะไม่ใช้บริการ ทำธุรกรรม โพส หรือกระทำการใดที่เกี่ยวข้องกับการดังต่อไปนี้
      1. การกระทำที่เกี่ยวข้องกับการพนัน การค้าบริการทางเพศ การฟอกเงิน
      2. การกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิของบริษัท หรือผู้อื่น ซึ่งรวมถึงการละเมิดสิทธิทางทรัพย์สินทางปัญญา
      3. การกระทำอันมีวัตถุประสงค์เพื่อหลอกลวง หมิ่นประมาท ข่มขู่ หรือคุกคามผู้อื่น
      4. การกระทำอันฝ่าฝืนข้อกำหนดนี้ หรือกฎหมายที่ใช้บังคับ
      5. การกระทําซึ่งมีลักษณะฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
      6. การกระทำอันเป็นการขัดขวางการทำงานอันเป็นปกติของการให้บริการ หรือ
      7. การกระทำอื่นใด ซึ่งบริษัทเห็นว่าไม่เหมาะสม
    4. ผู้ขอใช้บริการจะไม่แทรกแซงการทำงานของแอปพลิเคชัน และ/หรือเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ และ/หรือ ระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน และ/หรือระบบใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการหรือแอปพลิเคชัน (รวมเรียกว่า “ระบบการให้บริการ”) และจะไม่พยายามเข้าสู่ระบบการให้บริการโดยปราศจากอำนาจ ไม่ว่าด้วยวิธีการเจาะระบบ (Hacking) ขโมย สำเนา หรือทำลายฐานข้อมูล ทำลายรหัสลับส่วนตัว (Password mining) หรือวิธีการอื่นใด และ ผู้ขอใช้บริการจะแจ้งให้บริษัททราบทันทีที่พบหรือสงสัยว่าระบบการให้บริการถูกบุคคลภายนอกแทรงแซง หรือเข้าไป โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อให้บริษัทดำเนินการต่อเหตุการณ์ดังกล่าวได้อย่างเหมาะสม และทันเวลา หากเกิดความเสียหายใด ๆ ขึ้นแก่บริษัท หรือบริษัทถูกเรียกร้องให้ต้องรับผิดใด ๆ อันเกิดจากการกระทำหรือละเว้นการกระทำของผู้ขอใช้บริการ บริษัทมีสิทธิระงับ หรือยกเลิกบริการได้ทันที และผู้ขอใช้บริการจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัททุกประการ ทั้งนี้ ไม่ว่าผู้ขอใช้บริการจะมีเจตนาทุจริตหรือไม่ก็ตาม
  6. การจัดการบัญชีและรหัสผ่านที่ถูกคุกคาม
    ผู้ขอใช้บริการจะต้องแจ้งให้บริษัททราบทันทีที่พบหรือสงสัยว่าบัญชี และ/หรือรหัสผ่านของผู้ขอใช้บริการถูกโจรกรรม หรือถูกบุคคลอื่นนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต และผู้ขอใช้บริการจะต้องให้ความร่วมมือตามจำเป็นแก่บริษัท เพื่อให้บริษัทดำเนินการระงับ หรือแก้ไขเหตุการณ์ดังกล่าวได้อย่างเหมาะสม และทันเวลา รวมถึงเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการตามกฎหมายกับบุคคลที่โจรกรรม หรือนำบัญชี และ/หรือรหัสผ่านของผู้ขอใช้บริการไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
  7. การจัดการและพัฒนาบริการ
    บริษัทอาจระงับบริการไม่ว่าทั้งหมด หรือส่วนใดส่วนหนึ่ง ไม่ว่าชั่วคราว หรือตลอดไป เพื่อการจัดการ การบำรุงรักษา ทำให้เป็นปัจจุบัน และการพัฒนาบริการ การซ่อมแซมอุปกรณ์ซอฟแวร์ หรือฮาร์ดแวร์ที่ใช้บริการ และ/หรือ การแก้ไขเหตุขัดข้องของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และระบบสื่อสาร โดยผู้ขอใช้บริการตกลงว่าจะไม่เรียกร้อง ให้บริษัทต้องชดใช้ค่าเสียหายใด ๆ อันเกิดจากการดำเนินการดังกล่าว
  8. สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา
    1. ผู้ขอใช้บริการตกลงและยอมรับว่า บรรดาข้อมูล ข้อความ รูปภาพ เสียง งานอันมีลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ กราฟิก และโลโก้ ชื่อทางการค้า ฐานข้อมูล ความลับทางการค้า สิทธิบัตร โนว์ฮาว์ ข้อมูลธุรกิจ และอื่นๆ ที่ปรากฏบนแอปพลิเคชัน หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของระบบการให้บริการ รวมถึงคุณลักษณะ ฟังก์ชัน ซอฟต์แวร์ เนื้อหา คลิปเสียง คลิปวิดีโอ และสคริปต์ ที่บริษัทจัดไว้ให้ผู้ขอใช้บริการ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของบริการภายใต้ข้อกำหนดนี้ เป็นงานที่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา และเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว ผู้ขอใช้บริการจะต้องไม่กระทำการละเมิดสิทธิดังกล่าวของบริษัท ไม่ว่าด้วยวิธีการใดก็ตาม รวมถึงไม่ดัดแปลง ทำซ้ำ ไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใด และไม่ว่าในรูปแบบใด ๆ รวมถึงจะไม่ทำวิศวกรรมย้อนกลับ แยกชิ้นส่วน หรือกระทำการอื่นใด เพื่อวิเคราะห์ซอฟแวร์ โปรแกรม ฐานข้อมูล และช่องทางการเชื่อมต่อ (Application programming interface – API)
    2. ผู้ขอใช้บริการยอมรับว่า หากผู้ขอใช้บริการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท และเป็นเหตุให้ บริษัทได้รับความเสียหาย บริษัทมีสิทธิได้รับค่าเสียหายตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง รวมถึง มีสิทธิสั่งห้ามไม่ให้ ผู้ขอใช้บริการกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง และมีสิทธิสั่งให้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อเป็นการเยียวยาความเสียหาย ที่เกิดขึ้นด้วย
    3. ผู้ขอใช้บริการตกลงและรับทราบว่า หากผู้ขอใช้บริการมีการนำเข้า (upload) หรือเผยแพร่ข้อมูล ข้อความ รูปภาพ เสียง งานอันมีลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ กราฟิก โลโก้ ชื่อทางการค้า ฐานข้อมูล ข้อมูลธุรกิจ เนื้อหา กราฟิก คลิปเสียง คลิปวิดีโอ และอื่นๆ ผ่านระบบ POS ให้ถือว่า ผู้ขอใช้บริการตกลงให้ความยินยอม (แบบเพิกถอนไม่ได้) ให้แก่บริษัทในการใช้ ทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่ อนุญาตให้บุคคลใด ๆ ใช้สิทธิ ไม่ว่าด้วยวิธีการใด ๆ จากสิ่งที่นำเข้านั้นได้ตลอดเวลา เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ข้อมูล และประชาสัมพันธ์ร้านค้าของผู้ขอใช้บริการ อย่างไรก็ดี หากเกิดความเสียหายใด ๆ จากการดำเนินการดังกล่าวของบริษัท ผู้ขอใช้บริการตกลงสละสิทธิในการดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัท ผู้บริหารระบบ และบุคคลที่บริษัทอนุญาต และจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้น
  9. การปฏิเสธการรับประกัน การจำกัดการรับผิด
    1. บริษัทจะให้บริการอย่างดีที่สุดเพื่อให้ผู้ขอใช้บริการได้รับบริการที่พึงพอใจ ดังนั้น หากการให้บริการใด ๆ ของบริษัทเกิดความผิดพลาด ล่าช้า ไม่ว่าเกิดขึ้นจากระบบคอมพิวเตอร์ ระบบอินเตอร์เน็ต อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ หรือระบบอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการนี้ รวมทั้งระบบเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ และไม่ว่าจะเกิดจากเหตุใด ๆ ผู้ขอใช้บริการตกลงไม่ยกเอาเหตุขัดข้องดังกล่าวมาเป็นข้อเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ จากบริษัท
    2. บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลในการปกป้องความสูญเสีย ความเสียหาย การคุกคาม ไวรัส การแทรกแซง การถูกแฮ็กอันเนื่องจาก Malware หรือ Computer Virus หรือจากการโจมตีทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นใด ทั้งนี้ บริษัทไม่รับรองหรือรับประกัน และผู้ขอใช้บริการจะปลดเปลื้องบริษัทจากความรับผิดใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ การกระทำดังกล่าว
    3. บรรดาการกระทำใด ๆ ที่บริษัทได้กระทำไปตามข้อกำหนดนี้ และ/หรือตามข้อมูลที่ผู้ขอใช้บริการได้แจ้งต่อบริษัท และ/หรือตามคำร้องขอของผู้ขอใช้บริการ และ/หรือตามเงื่อนไขอื่นใดของบริษัท ไม่ว่าที่มีอยู่แล้วในขณะนี้ หรือ ที่จะมีขึ้นในภายหน้า ให้มีผลผูกพันผู้ขอใช้บริการทุกประการ และบริษัทไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายใด ๆ เว้นแต่ความเสียหายอันเกิดจากความจงใจ หรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของบริษัท อย่างไรก็ดี บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะไม่ดำเนินการตามคำร้องขอของผู้ขอใช้บริการ หากบริษัทเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานบริษัท หรือบุคคลอื่น โดยผู้ขอใช้บริการตกลงสละสิทธิในการดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัท ผู้บริหารระบบ และบุคคลที่บริษัทอนุญาต และจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น
    4. ผู้ขอใช้บริการรับทราบว่า ระบบ POS เพียงช่วยอำนวยความสะดวกเท่านั้น บริษัทไม่รับประกันความถูกต้องของข้อมูลใด ๆ ไม่ว่าข้อมูลนั้นจะเป็นของบริษัท หรือสร้างจากผู้ขอใช้บริการ และผู้ขอใช้บริการมีหน้าที่ในการตรวจสอบความถูกต้อง และปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น จดทะเบียนร้านค้า ตรวจสอบข้อมูลและความถูกต้องของเอกสาร ออกใบเสร็จรับเงิน ออกใบกำกับภาษี หรือรับผิดชอบภาระทางภาษี เป็นต้น
  10. ความเป็นส่วนตัว
    1. ผู้ขอใช้บริการยินยอมให้บริษัท และผู้บริหารระบบเก็บรวบรวม ใช้ บันทึก ประมวลผล โอน เปิดเผย และ/หรือส่งต่อ (“ใช้”) ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ขอใช้บริการ ซึ่งรวมถึง ข้อมูลทางชีวภาพ (Biometrics Data) ข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลการใช้บริการของผู้ขอใช้บริการ และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการ (“ข้อมูล”) โดยบริษัท และผู้บริหารระบบอาจเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้ขอใช้บริการโดยตรง และ/หรือจากแหล่งอื่น และ/หรือจากที่มีอยู่ในระบบฐานข้อมูลของบริษัท และ/หรือผู้บริหารระบบ นอกจากนี้ บริษัท และผู้บริหารระบบอาจใช้ บันทึก ประมวลผล โอน เปิดเผย และ/หรือ ส่งต่อข้อมูลดังกล่าวให้กับบริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ป จำกัด, บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด, บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด, บริษัท แอสเซนด์ นาโน จำกัด, บริษัท แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด, บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด และ/หรือบริษัทในเครือของบริษัทดังกล่าวทั้งหมดข้างต้น (รวมเรียกว่า “บริษัทในกลุ่ม”) ผู้ประมวลผลข้อมูล ที่ปรึกษาธุรกิจ ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอก ผู้รับโอนสิทธิเรียกร้อง และ/หรือนิติบุคคล หรือบุคคลอื่นใด ๆ ที่บริษัท และ/หรือผู้บริหารระบบเป็นคู่สัญญาหรือ มีความสัมพันธ์ด้วย ทั้งภายใน และภายนอกประเทศ ซึ่งบุคคลหรือหน่วยงานนั้นอาจอยู่ในประเทศที่มีมาตรฐานการรักษาข้อมูลเทียบเท่าหรือต่ำกว่าประเทศไทย (“ผู้รับทราบข้อมูล”) ทั้งนี้ ผู้ขอใช้บริการตกลงให้ความยินยอมทั้งหมดของผู้ขอใช้บริการยังคงมีอยู่ แม้ว่าผู้ขอใช้บริการจะไม่ได้ใช้บริการกับบริษัทต่อไปแล้วก็ตาม
    2. ผู้ขอใช้บริการตกลงและรับทราบให้บริษัท ผู้บริหารระบบ และ/หรือผู้รับทราบข้อมูลใช้ข้อมูลดังกล่าว เพียงเท่าที่จำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ ในกรณีมีความจำเป็นที่บริษัท ผู้บริหารระบบ และ/หรือผู้รับทราบข้อมูลจะต้องใช้ข้อมูลของผู้ขอใช้บริการ เพื่อวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายอื่นนอกเหนือจากที่ได้ระบุไว้ในข้อกำหนดนี้ บริษัท ผู้บริหารระบบ และ/หรือผู้รับทราบข้อมูลจะแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบโดยไม่ชักช้า
      1. เพื่อประโยชน์แก่การให้บริการแก่ผู้ขอใช้บริการ การจัดการ และการปฏิบัติตามคำขอของ ผู้ขอใช้บริการ
      2. เพื่อเป็นหลักฐานการให้บริการ
      3. เพื่อประโยชน์แก่การพิสูจน์ตัวตน ระบุตัวตน และการตรวจสอบความถูกต้อง
      4. เพื่อประโยชน์แก่บริษัท ผู้บริหารระบบ และบริษัทในกลุ่ม ในการทำความเข้าใจความต้องการของผู้ขอใช้บริการ การวิเคราะห์ ปรับปรุง และพัฒนาบริการของบริษัท ผู้บริหารระบบ และบริษัทในกลุ่มให้เป็นที่พอใจแก่ผู้ขอใช้บริการมากยิ่งขึ้น
      5. เพื่อการประชาสัมพันธ์ และส่งข้อมูลการตลาด และส่งเสริมการขาย รวมถึงข้อเสนอทางด้านการเงิน ที่มีอยู่ในขณะนั้นหรือที่บริษัท ผู้บริหารระบบ และบริษัทในกลุ่ม อาจจัดให้มีขึ้นในภายหน้า และคาดการณ์ว่าจะตรงกับความสนใจ และความต้องการของผู้ขอใช้บริการ
      6. เพื่อประโยชน์แก่การช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาด้านเทคนิคให้แก่ผู้ขอใช้บริการ
      7. เพื่อการติดต่อสื่อสารกับผู้ขอใช้บริการ
      8. เพื่อการป้องกัน และตรวจสอบการฉ้อโกง การทุจริต หรือกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
      9. เพื่อการใด ๆ ที่ไม่ต้องห้ามโดยกฎหมายตามที่บริษัท และ/หรือผู้บริหารระบบเห็นสมควร
    3. บริษัทอาจใช้ไฟล์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ติดตั้งอยู่บนคอมพิวเตอร์ของผู้ขอใช้บริการซึ่งเรียกว่า คุกกี้ (Cookies) หรือคุณลักษณะอื่น ๆ (“คุกกี้”) เพื่อความสะดวกในการจดจำเว็บไซต์ที่ผู้ขอใช้บริการเคยเข้าชม คุกกี้ไม่สามารถใช้ เพื่อระบุตัวตนของผู้ขอใช้บริการ แต่จะสามารถใช้ระบุถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ขอใช้บริการใช้ได้ เมื่อได้ติดตั้งคุกกี้แล้ว ผู้ขอใช้บริการจะได้รับความสะดวกสบายในการใช้บริการของบริษัท เนื่องจากคุกกี้จะจดจำรูปแบบลักษณะการใช้งานของ ผู้ขอใช้บริการไว้ ผู้ขอใช้บริการยินยอมให้บริษัท และผู้บริหารระบบนำข้อมูลที่คุกกี้ได้เก็บรวบรวม ใช้ บันทึก ประมวลผล โอน เปิดเผย และ/หรือส่งต่อข้อมูลดังกล่าว ไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ตามข้อกำหนดนี้ ผู้ขอใช้บริการมีสิทธิปฏิเสธการใช้คุกกี้ได้ โดยการตั้งค่าบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้ขอใช้บริการ ทั้งนี้ การปฏิเสธการใช้คุกกี้อาจทำให้ผู้ขอใช้บริการไม่สามารถ ใช้บริการทั้งหมดหรือบางส่วนได้
    4. บริษัท และผู้บริหารระบบอาจร้องขอข้อมูลจากผู้ขอใช้บริการผ่านการสำรวจต่าง ๆ เป็นครั้งคราว โดยการเข้าร่วมการสำรวจนี้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ขอใช้บริการทั้งสิ้น ดังนั้น ผู้ขอใช้บริการจึงสามารถเลือกได้ว่าจะเปิดเผยข้อมูลแก่บริษัท และผู้บริหารระบบหรือไม่ ข้อมูลที่ร้องขอ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลการติดต่อ และข้อมูลเกี่ยวกับช่วงอายุ ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจนี้จะนำมาใช้เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาและปรับปรุงบริการของบริษัท และผู้บริหารระบบ
    5. บริษัท และผู้บริหารระบบมีการนำมาตรการด้านความปลอดภัยต่าง ๆ มาใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลของผู้ขอใช้บริการซึ่งบริษัท และผู้บริหารระบบเป็นผู้ควบคุม และ/หรือผู้ประมวลผล โดยข้อมูลของผู้ขอใช้บริการจะถูกเก็บไว้ในเครือข่ายที่มีความปลอดภัย และสามารถเข้าถึงได้โดยบุคคลากรของบริษัท และผู้บริหารระบบเท่านั้น ซึ่งจะเป็น บุคคลที่มีสิทธิพิเศษในการเข้าถึงระบบดังกล่าว และมีหน้าที่ตามกฎหมายในการปกป้องข้อมูลของผู้ขอใช้บริการ และ ใช้ข้อมูลของผู้ขอใช้บริการเพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ผู้ขอใช้บริการให้ความยินยอมไว้เท่านั้น
    6. ในกรณีที่บริษัททำการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก เพื่อประโยชน์แก่การใช้บริการของ ผู้ขอใช้บริการ บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบว่าเว็บไซต์เหล่านั้นเป็นเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือหรือไม่ ทั้งนี้ บริษัทไม่รับประกันว่าข้อมูลที่ผู้ขอใช้บริการได้ให้แก่เว็บไซต์ของบุคคลภายนอกจะมีความปลอดภัย ผู้ขอใช้บริการจะต้องเข้าใช้งานด้วย ความรับผิดชอบของตนเอง บริษัทจะไม่ต้องรับผิดชอบหรือรับผิดในเนื้อหา การจัดการด้านความปลอดภัย และกิจกรรมต่าง ๆ บนเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก
    7. นอกเหนือจากความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลของผู้ขอใช้บริการที่กำหนดไว้โดยเฉพาะในข้อกำหนดนี้ บริษัทไม่มีนโยบายในการเปิดเผยข้อมูลของผู้ขอใช้บริการให้กับบุคคลที่สาม โดยมิได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้ง จากผู้ขอใช้บริการ เว้นแต่เป็นการเปิดเผยข้อมูลของผู้ขอใช้บริการให้กับบุคคลที่ได้รับอนุญาตจากผู้ขอใช้บริการให้เข้าถึง ข้อมูลของผู้ขอใช้บริการ หรือเป็นการเปิดเผยข้อมูลตามที่กฎหมายกําหนด หรือเมื่อมีคำสั่งของศาล หรือ เมื่อมีคําสั่งที่ถูกต้องตามกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง
    8. ผู้ขอใช้บริการรับทราบว่า ผู้ขอใช้บริการสามารถบอกเลิก หรือปฏิเสธความยินยอมดังกล่าวได้ผ่านช่องทางศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) หมายเลขโทรศัพท์ 02-020-2364 หรือช่องทางอื่นตามที่บริษัทกำหนด ทั้งนี้ ผู้ขอใช้บริการรับทราบดีว่า การบอกเลิก หรือปฏิเสธความยินยอมนั้น อาจทำให้ผู้ขอใช้บริการไม่สามารถใช้บริการทั้งหมด หรือบางส่วนได้
  11. การระงับ และ/หรือการยกเลิกบริการ
    1. บริษัทมีสิทธิระงับ และ/หรือยกเลิกบริการ ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม โดยแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 (สิบห้า) วัน เว้นแต่กรณีมีพฤติการณ์ อันน่าเชื่อว่ามีการใช้บริการ หรือการทำรายการในลักษณะเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือ ศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีพฤติการณ์อันน่าเชื่อว่ามีการใช้บริการ หรือการทำรายการในลักษณะอัตโนมัติ (Robot) หรือ โดยทุจริต หรือโดยมิชอบไม่ว่าด้วยประการใด ๆ หรือมีเหตุอันจำเป็นอื่นใดซึ่งไม่อาจแจ้งล่วงหน้าได้ บริษัทมีสิทธิระงับ และ/หรือยกเลิกบริการได้ทันที โดยบริษัทจะแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบโดยไม่ชักช้า
    2. ผู้ขอใช้บริการอาจยกเลิกการใช้บริการไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าด้วยเหตุผล ใดก็ตาม โดยแจ้งให้บริษัททราบเป็นลายลักษณ์อักษร หรือแจ้งผ่านช่องทางติดต่อที่บริษัทกำหนด เพื่อให้บริษัททราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 (สิบห้า) วัน
  12. การติดต่อ และคำบอกกล่าว
    1. ผู้ขอใช้บริการต้องแจ้งข้อมูลการติดต่อให้เป็นปัจจุบันเสมอ เพื่อให้บริษัทติดต่อกับผู้ขอใช้บริการได้ ผู้ขอใช้บริการรับทราบและตกลงว่า หากบริษัทส่งข้อมูลใด ๆ ให้แก่ผู้ขอใช้บริการ ไม่ว่าทางไปรษณีย์ หรือ ผ่านวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ แต่ผู้ขอใช้บริการไม่ได้รับ เนื่องจากข้อมูลการติดต่อไม่ถูกต้อง หรือไม่เป็นปัจจุบัน หรือ ผู้ขอใช้บริการไม่สามารถรับการติดต่อสื่อสารได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม โดยที่บริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้ถือว่า บริษัทได้ติดต่อสื่อสารกับผู้ขอใช้บริการแล้ว
    2. ผู้ขอใช้บริการสามารถติดต่อสอบถามได้ผ่านช่องทางศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) หมายเลขโทรศัพท์ 02-020-2364 หรือช่องทางอื่นตามที่บริษัทกำหนด
  13. กฎหมายที่ใช้บังคับ
    บริษัทประสงค์จะให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นที่พึงพอใจแก่ผู้ขอใช้บริการ ในกรณีมีปัญหาเกิดขึ้น บริษัทจะจัดหาวิธีการที่เป็นกลาง เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว หากไม่สามารถยุติข้อพิพาท ผู้ขอใช้บริการและบริษัทตกลงกันใช้บังคับและตีความตามกฎหมายไทย และให้ศาลไทยเป็นศาลที่มีเขตอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทที่เกิดขึ้น
เงื่อนไขการใช้แพ็คเกจ ระบบการขายและบริหารสต๊อก (“POS”)
POS Package เหมาะสำหรับร้านค้าทุกประเภท
รายละเอียด แพ็คเกจ POS on True Smart Merchant (Subscription Service) แพ็คเกจ ใช้ฟรี 30 วัน แพ็คเกจ Basic ใช้งานผ่านแอพ ทรู สมาร์ต เมอร์ชัน
ราคาแพ็คเกจรายเดือน (Subscription Fee) ฟรี 30 วัน (นับจากวันลงทะเบียนใช้งานสำเร็จ) 149 บาท / เดือน
สร้างรายการสินค้า สูงสุด* 1,000 1,000
จำนวนสาขา 1 1
บันทึกรายการขายได้สูงสุดต่อเดือน 10,000 10,000
บัญชีผู้ใช้งาน (User) ไม่จำกัด ไม่จำกัด
จำนวนอุปกรณ์ที่เข้าใช้งานพร้อมกัน (Concurrent Device) 1 1
จำกัดขนาดข้อมูล (Data) ไม่จำกัด ไม่จำกัด
  1. ผู้ขอใช้บริการจะต้องเปิดบัญชีสมาชิกกับบริษัทฯ (“บัญชี”) และจะต้องตกลงตามข้อกำหนด และ/หรือ ดำเนินการใดๆ ตามที่บริษัทกำหนดเพื่อขอใช้บริการกับบริษัท และผู้ขอใช้บริการยอมรับ และตกลงให้บริษัทมีดุลพินิจ แต่เพียงผู้เดียวในการพิจารณาอนุมัติ หรือ ปฏิเสธการสมัครสมาชิกของผู้ขอใช้บริการ หรือจำกัดการเข้าถึงบริการบางส่วนหรือทั้งหมด หรือระงับ หรือยกเลิกการเป็นสมาชิก และการใช้บริการของผู้ขอใช้บริการ หรือดำเนินการใดๆ ตามที่จำเป็น และเหมาะสม ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบล่วงหน้า
  2. สมาชิกจะได้รับแพ็คเกจใช้ฟรี 30 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่สมาชิกสร้างบัญชีสำเร็จ และได้รับการอนุมัติให้ใช้งานแพ็คเกจฟรี โดยเมื่อสมาชิกใช้งานฟรีครบ 30 วัน ในกรณีที่สมาชิกมีความประสงค์ที่จะใช้บริการต่อจะมีค่าใช้จ่ายคิดตามแพ็คเกจที่เลือก เรียกว่า "บริการแพ็คเกจ POS on True Smart Merchant" (Subscription Service) และ การใช้บริการ Subscription Service สมาชิกจะต้องชำระค่าบริการตามรอบการใช้งาน และ เป็นไปตามที่ข้อตกลงการใช้งานกำหนดไว้

    การใช้บริการ Subscription Service จะต้องชำระค่าบริการตามแพ็คเกจที่เลือกใช้งานรวมถึง ภาษีอากร ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ถ้ามี) รวมกันเรียกว่า “ค่าบริการ” สมาชิกสามารถเลือกวิธีชำระค่าบริการผ่านช่องทางที่บริษัทฯ กำหนด ในกรณีที่สมาชิกชำระค่าบริการด้วยบัตรเดบิต หรือ เครดิต ตามยอดที่ต้องชำระ ระบบของบริษัทฯ จะทำการเรียกเก็บค่าบริการ และดำเนินการตัดบัตรอัตโนมัติทุกเดือนตามแพ็คเกจที่สมาชิกเลือกไว้ จนกว่าจะสิ้นสุดการใช้บริการ โดยสมาชิกสามารถยกเลิกใช้บริการ Subscription Service ได้ตลอดเวลาโดยติดต่อบริษัทตามช่องทางที่กำหนด เมื่อสมาชิกทำการยกเลิกใช้บริการ ผู้ใช้บริการยังสามารถใช้บริการ Subscription Service ได้ตามระยะเวลารอบการชำระเงินนั้นๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการไม่สามารถขอคืนค่าบริการ หรือเครดิตที่ได้ชำระมาแล้ว หรือถึงกำหนดชำระ

    บริษัทขอสงวนสิทธิ์การเปลี่ยนแปลง Subscription Fee เมื่อมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า อย่างน้อย สามสิบ (30) วัน ทั้งนี้หากผู้ใช้บริการ Subscription Service ต่อไปหลังจากมีการแจ้งการเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิก ถือเป็นผู้ใช้บริการตกลงกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
  3. บริษัทฯ อาจเสนอแพ็คเกจสินค้าและบริการเสริม (Subscription Bundle Package) เพิ่มเติมจาก Subscription Service ผู้ใช้บริการที่สมัครแพ็คเกจเสริม ตกลงชำระค่าสินค้าและบริการ รวมถึง ภาษีอากร ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ถ้ามี) โดยอัตราค่าบริการเป็นไปตามแพ็คเกจเสริมที่ผู้ใช้บริการสมัคร และ ยอมรับเงื่อนไขการใช้บริการเป็นไปตามข้อมูลตอนสมัครใช้บริการแพ็คเกจเสริม ที่มีค่าใช้จ่าย ระหว่างสมาชิกกับ บริษัทฯ ซึ่งอาจจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป ในแต่ละ แพ็คเกจเสริม
  4. บริษัทสามารถยกเลิกหรือระงับบัญชีของสมาชิกได้ ตามดุลพินิจของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว หากสมาชิกได้กระทำผิดในสาระสำคัญหรือละเมิดข้อตกลงเหล่านี้หรือข้อตกลงอื่นใดที่บังคับใช้กับการใช้บริการของสมาชิก สมาชิกมีสิทธิยกเลิกบัญชีผู้ใช้บริการได้ตลอดเวลา สมาชิกอาจยกเลิกบัญชีผู้ใช้บริการโดยการแจ้งความประสงค์กับบริษัทฯ ในกรณี ผู้ใช้บริการซื้อแพ็คเกจพร้อมอุปกรณ์ แต่ยังชำระไม่ครบตามสัญญาที่กำหนด ผู้ใช้บริการต้องส่งคืนอุปกรณ์ POS รวมถึงอุปกรณ์เสริมทั้งหมด ไปยังตัวแทน บริษัทฯ ในกรณีที่สมาชิกประสงค์ให้ บริษัทเข้าเก็บอุปกรณ์ สมาชิกตกลงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นอย่างสมเหตุสมผลและจากผู้ให้บริการขนส่งด้วยเช่นกัน อาจมีการเรียกเก็บค่าบริการ การยกเลิกบัญชีผู้ใช้บริการของสมาชิกจะถือว่าเสร็จสมบูรณ์เมื่อมีการส่งคืนอุปกรณ์ POS และอื่นๆทั้งหมดภายใต้บัญชีสมาชิก การยกเลิกบัญชีผู้ใช้บริการก่อนสิ้นสุดรอบการชำระเงินรายเดือนหรือปีจะมีผลทันทีและทั้งนี้บริษัท สงวนสิทธิ์คืนค่าบริการที่ชำระล่วงหน้า

    หากบัญชีของสมาชิกถูกยกเลิก: (a) บัญชีของสมาชิกจะถูกจำกัดประสิทธิภาพในการใช้งาน (b) สิทธิทั้งหมดของสมาชิกที่ได้รับตามข้อตกลงจะสิ้นสุดลง และ (c) บริษัทไม่มีหน้าที่ แต่อาจพิจารณาลบข้อมูลของสมาชิกและข้อมูลบัญชีผู้ใช้บริการที่จัดเก็บบนเซิร์ฟเวอร์ของเรา และไม่มีหน้าที่ความรับผิดชดเชยค่าเสียหายต่อสมาชิก ผู้ใช้บริการ หรือบุคคลภายนอก หรือบุคคลภายนอก สำหรับการชดเชย การชดใช้ หรือความเสียหายสำหรับการยุติหรือการระงับบริการ หรือการลบข้อมูลหรือข้อมูลบัญชีผู้ใช้บริการของสมาชิก เป็นความรับผิดชอบของสมาชิกที่จะต้องแน่ใจว่าเนื้อหาหรือข้อมูลใด ๆ ที่คุณต้องการได้รับ ได้ทำการสำรองหรือทำซ้ำก่อนการยกเลิกแล้ว
  5. ในการเปิดบัญชีกับบริษัท โดยผู้ขอใช้บริการต้องให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่บริษัท ซึ่งรวมถึง สถานที่ติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลการติดต่ออื่นๆ ตามที่บริษัทกำหนด
  6. ผู้ขอใช้บริการรับทราบและตกลงว่าบริษัทไม่ต้องรับผิดในความเสียหาย สูญเสียหรือสูญหายใดๆ ที่ผู้ขอใช้บริการได้รับจากการขอใช้บริการของผู้ขอใช้บริการทุกกรณี
รายการสินค้าต้องห้ามขายบนแพลตฟอร์ม
  1. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
  2. ผลิตภัณฑ์จากสัตว์และสัตว์ป่า (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงสัตว์ป่า)
  3. วัตถุโบราณและโบราณวัตถุสถาน ตามกฎหมายว่าด้วยการค้าของเก่า และพระเครื่อง
  4. เงินตราไทย ต่างประเทศและแสตมป์ปลอม
  5. บัตรเครดิตและบัตรเดบิต
  6. เงินตราต่างประเทศ เงินตราแบบดิจิตอล ธนบัตรรัฐบาลและเหรียญที่เพื่อการสะสม
  7. ยาเสพติด ยารักษาโรค สารเสพติด และยากระตุ้นอารมณ์ทางเพศ
  8. สินค้าที่ถูกสั่งห้ามโดยกฏหมายหรือหน่วยงานรัฐบาลหรือองค์กรที่กำกับดูแลในประเทศไทย
  9. อาวุธปืน อาวุธ เช่น สเปรย์พริกไทย สิ่งเทียมอาวุธ และเครื่องช็อตไฟฟ้า เป็นต้น
  10. สินค้าผลิตภัณฑ์อาหารต้องห้าม:อาหารเสริม อาหารอันตรายต่อมนุษย์
  11. สินค้าผลิตภัณฑ์อาหารที่เน่าเสียง่าย ใกล้หมดอายุ
  12. ชิ้นส่วนมนุษย์หรือซากศพ
  13. อุปกรณ์สะเดาะกุญแจ
  14. ตั๋วลอตเตอรี่
  15. สิ่งของที่อาจละเมิดลิขสิทธิ์: ของปลอม
  16. ตู้สล็อต
  17. สิ่งของที่ถูกเรียกคืน
  18. ยาสูบหรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับยาสูบ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงบุหรี่ไฟฟ้า
  19. สิ่งของที่มีเนื้อหาลามกอนาจาร
  20. สินค้าที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย การเลือกตั้ง ประเด็นทางการเมือง
  21. สิ่งพิมพ์ หนังสือ ภาพยนตร์ วิดีโอ และ/หรือวิดีโอเกมที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย
  22. สินค้าที่ถูกลักขโมย/แหล่งที่มาผิดกฎหมาย
  23. สินค้าที่ติดฉลากปลอม/ไม่มีเลข อย.
  24. สิ่งของอื่นใดที่หรือมีส่วนประกอบแอลกอฮอลผิดกฎหมายหรือถูกจำกัดในเขตอำนาจศาล
  25. สินค้าอันตราย
  26. สินค้าการพนัน
  27. สารสกัดจากกัญชาหรือกัญชงที่มี THC เกิน 0.2%
  28. ผลิตภัณฑ์หรือรูปภาพที่มีการโฆษณาเกินจริง
  29. อุปกรณ์ทางการแพทย์
  30. สินค้าที่ก่อให้เกิดความแตกแยก : ทางเชื้อชาติ ศาสนา สังคม